Honda City รถเก๋งซีดาน 4 ประตู ในกลุ่มรถซับคอมแพคคาร์ขนาดเล็กที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากด้วยสามารถตอบโจทย์รถที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีอัตราการใช้น้ำมันในอัตราที่ต่ำ ทั้งนี้ฮอนด้าซิตี้ได้รับการทำตลาดรถในเมืองไทยในปี 1996 ซึ่งนับย้อนไปเป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษที่รถซิตี้คาร์รุ่นนี้มีการโลดแล่นอยู่บนท้องถนนเมืองไทย ปัจจุบันฮอนด้าซิตี้ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์มาแล้วกว่า 7 เจนเนอเรชั่น โดยเจนเนอเรชั่นล่าสุดมาพร้อมทางเลือกตัวถังทั้งในรูปแบบรถเก๋งซีดาน 4 ประตู และรถอเนกประสงค์แฮทช์แบ้ก 5 ประตู โดยเฉพาะในรุ่นซีดานมาพร้อมทางเลือกรุ่นย่อยจำนวน 5 รุ่น ได้แก่ รุ่น S , รุ่น V , รุ่น SV , รุ่น RS และรุ่นท็อปสุด e:HEV RS โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0 ลิตร ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถซิตี้คาร์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก สำหรับตลาดรถเมืองไทยฮอนด้า city มือสองยังได้รับรับความสนใจมากด้วยมีราคาจำหน่ายที่ไม่สูงมากนักและทางเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลายนั่นเอง
https://chobrod.com/car-honda-city
พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่สุดประทับใจกับ Honda City ซิตี้คาร์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในรุ่น RS ซึ่งถือเป็นรถรุ่นท็อปสุดในไลน์การผลิตฮอนด้า ซิตี้ โฉมปัจจุบัน ก่อนที่จะมีรุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า e:HEV เข้ามาจำหน่ายเป็นรุ่นท็อปสุดแทนที่ Honda City รุ่น RS ถือเป็นรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ MY2022 ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์ภายนอกให้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวผสานกับการออกแบบภายในสุดพรีเมียมเต็มเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดครบครัน โดยมีมิติตัวถังกว้าง 1,748 มม. สูง 1,467 มม. ยาว 4,553 มม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 739,000 บาท
ฮอนด้าซิตี้ รุ่น RS MY2022 ซิตี้คาร์ที่ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ให้โดดเด่นสะดุดตาตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย อาทิ กระจกมองข้างแบบสปอร์ตสีดำปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า กระจังหน้าแบบ Gloss Black สีดำเงา ติดตั้งไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ กันชนหน้าติดตั้งชุดแต่งแบบ RS สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black ติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin พร้อมระบบไล่ฝ้ากระจกหน้า-หลัง ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
Honda City รุ่น RS MY2022 ได้รับการตกแต่งภายในห้องโดยสารอย่างเรียบหรูในโทนสีดำ Piano Black พร้อมห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ตอบโจทย์รถครอบครัวได้เป็นอย่างดี เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังเย็บเก็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมทั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกจำนวนมาก อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง เสริมด้วยการติดตั้งช่องจ่ายไฟสำรองที่ด้านหน้า 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ติดตั้งระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย Siri
Honda City รุ่น RS MY2022 ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V-TEC Turbo พร้อม Turbo Charger ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด ที่มีความนุ่มนวลสูงด้วยอัตราการทดเกียร์ที่ต่ำจึงทำให้ในขณะที่ทำการเร่งเครื่องเพิ่มระดับความเร็วเครื่องยนต์จึงไร้ปัญหาอาการกระตุก อีกทั้งระบบเกียร์ CVT ยังสามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
เครื่องยนต์ Honda City
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 4
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 4 ซิตี้คาร์โฉมใหม่ที่ไดรับการเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยในปี 2005-2007 หรือ ที่รู้จักกันในรุ่น ZX ซึ่งมาพร้อมทางเลือกรุ่นย่อยจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น A i-DSI , รุ่น S , รุ่น SV และรุ่น EV โดยได้รับการดีไซน์ภายนอกให้มีความโฉบเฉี่ยวสะดุดตาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมรมดำ ไฟหน้าแบบฮาโลเจน ติดตั้งสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ตพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 มาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบอนาล็อก และกระจกไฟฟ้ารอบคัน
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 4 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ ได้แก่
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 4 ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ถือเป็นรูปแบบเกียร์ที่ฮอนด้ายึดถือและติดตั้งเข้ามาให้กับรถรุ่นนี้อยู่โดยตลอด ซึ่งสามารถให้การส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาขับได้อย่างรวดเร็วด้วยอัตราการทดเกียร์ที่ต่ำ อีกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร ก็ยังสามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็วพร้อมให้ความแรงได้อย่างเต็มขั้น อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดีในสไตล์รถซิตี้คาร์อีกด้วย
ฮอนด้าซิตี้ มือสอง เจนเนอเรชั่นที่ 4 ราคาเริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท ถึง 200,000 บาท
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 5 เอกสิทธิ์แห่งความเหนือระดับในรูปแบบรถซิตี้คาร์ที่ได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดพรีเมียม เริ่มต้นทำตลาดรถยนต์ในเมืองไทยโฉมนี้ในปี 2008-2014 พร้อมทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้มา 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S , รุ่น V , รุ่น V+ มาพร้อมการดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตทั้งจากกระจังหน้าแบบโครเมียมขนาดใหญ่เป็นแนวยาวไปจรดกับไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนภายในได้รับการดีไซน์สุดเรียบหรูพร้อมทั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดครบครัน
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 5 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ ได้แก่
Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 5 ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่มีความนุ่มนวลสูงสามารถส่งกำลังได้อย่างรวดเร็ว ผนวกกับการติดตั้งระบบช่วงล่างที่มีความแข็งแกร่งช่วยลดแรงกระแทกที่จะส่งไปยังห้องโดยสารได้เป็นอย่างดีส่งผลให้ผุ้ดดยสารสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ในตลอดทริปการเดินทาง
ฮอนด้าซิตี้ มือสอง เจนเนอเรชั่นที่ 5 ราคาเริ่มต้นประมาณ 200,000 บาท ถึง 400,000 บาท
สำหรับผู้ที่มีความสนใจ honda city มือสอง รถซิตี้คาร์ขนาดเล็กที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตภายในเมืองได้เป็นอย่างดี ค้นหารถฮอนด้าซิตี้มือสอง สภาพดี ราคาถูก รถบ้านเจ้าของขายเอง มีความน่าเชื่อถือ เลือกรถ honda city มือสอง รุ่นที่ตอบสนองต่อการใช้งานของคุณได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสแม้จะอยู่ที่บ้านแค่ทัช Chobrod.com ตลาดรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่มีรถ honda city มือสอง ให้เลือกมากที่สุดในประเทศไทย